วันปล่อยผี : ประเพณีสิบสองเป็งล้านนา

12  เป็ง  หรือขึ้น 15  ค่ำเดือน 12  หนเหนือ

ตรงกับวันไหว้พระจันทร์

และเดือน 12 หนเหนือ ยังตรงกับประเพณีของคนไทยภาคกลาง ไทยภาคใต้คืองานเทศกาลสารเดือน 10

ก็ทำบุญคล้าย ๆ กับทางเหนือเราเหมือนกัน

12  เป็ง เป็นช่วงปล่อยผีต๋ายเก่าเน่าเมินมารับของกิ๋นของตาน (ของกิ๋นของตาน คือ ของที่ทำบุญ เช่น อุปกรณ์ เครื่องปรุง วัตถุดิบในการทำอาหาร  อาหารแห้ง  อาหารสด  อาหารปรุงสุก และผลไม้) ตามความเชื่อแบบล้านนา

คนเฒ่าบะเก่า (คนโบราณ) ว่าไว้  ลูกหลานคนใดบะตานหา  ผีต๋ายเก่าเน่าเมิน (ผีบรรพบุรุษ) วงศ์คณาญาติที่ล่วงลับไปแล้วในช่วง  12 เป็ง ผีจะแจ่งหัว (สาปแช่ง) เมื่อบะได้กิ๋นของกิ๋นของตานเหมือนผีตนอื่น

บางบ้านจึงนิยมตานก๋วยสลาก 

บางบ้านตานก๋วยสัง  (ตานก๋วยสัง  เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านในตำบลสันทรายมหาวงศ์ เชียงใหม่ และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง)  นิยมตานก๋วยสัง คือ สลากหน้อย  ซึ่งก็เหมือนกับตานสลาก   แต่เรื่องครัวตาน (เครื่องสำหรับประกอบการทำบุญ) นั้นก็มากพอ ๆ กับสลาก แต่จะมีก๋วยหน้อยมากมายในการทำบุญ

เครื่องครัวตานในก๋วยสังจะประกอบไปด้วย  เมียง  บุหรี่ขี่โย  ไม้ขีดไฟ  เกลือ  พริกแห้ง  หอม  กระเทียม  ข้าวสาร  ห่อนึ่ง  ผลไม้  ขนมจ๊อก สวยดอก เป็นต้น  โดยจะนำเอาเครื่องครัวตานเหล่านี้จัดเป็นกอง ๆ ใส่ตะกร้าหรือพาชนะที่เตรียมไว้ตามจำนวนก๋วยสัง

ซึ่งช่วงเช้าตรู่อาจจะมีการตานขันข้าวหาเจ้ากรรมนายเวร  เทวบุตร  เทวดา  หรืออุทิศส่วนกุศลให้ตนเองในภายภาคหน้า

สาย ๆ จะตานก๋วยสังบนวิหารหลวง  เพื่อให้ผีบรรพบุรุษ ปู่ย่า  ตายาย  พ่อ แม่พี่ น้อง วงศ์คณาญาติ  ที่ล่วงลับไปแล้วมารับอานิสงส์การทำบุญตานอย่างทั่วถึงตามจำนวนของคนที่ล่วงลับ

นับว่าเป็นเทศกาลงานบุญใหญ่ของชาวล้านนาอีกเทศกาลที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตและความเชื่อของพุทธศาสนาในแบบชาวล้านนา

หวังว่าลูกหลานชาวล้านนาไทย จะยึดมั่นในประเพณีบ้านเราให้คงอยู่ตลอดไป

วันมาฆบูชา/วันสำคัญทางพุทธศาสนา

วันมาฆบูชา




มาฆบูชา ย่อมาจาก คำว่า มาฆปูรณมีบูชา คือ การบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆ ตามปฏิทินจันทคติ


ประวัติวันมาฆบูชา
เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพุทธศาสนา คือ มีพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ามาประชุม
อย่างพร้อมเพียงโดยมิได้นัดหมาย จำนวน 1,250 รูป ณ วันเวฬุวัน
พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ ผู้ที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบทโดยตรง
พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ทรงอภิญญา 6
วันที่ประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย คือวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
จึงเรียกว่า วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันจาตุรงคสันนิบาต

ประเพณีในวันมาฆบูชา
ชาวพุทธในประเทศไทย
ช่วงเช้า เข้าวัด ฟังธรรม ทำบญ ตักบาตร ตามประเพณีไทย
ช่วงเย็น เวียนเทียนในวันมาฆบูชา


ข้อคิดเห็น
สำหรับวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา
เป็นอีกวันหนึ่งที่พุทธศาสนิกชน มีโอกาสได้เข้าวัดปฏิบัติตน....
ฟังธรรม คือ ข้อประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกที่ควร.....
การเจริญสมาธิ เจริญสติ ด้วยการระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย.....
เป็นสิ่งที่เราชาวพุทธพึงปฏิบัติรักษาศีล ภาวนา.....
พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจเรื่องการเจริญสติ ด้วยหลักชาวพุทธ...
ตามแนวคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า......
เป็นสิ่งที่ดีที่เหมาะสม...ควรยึดถือและปฏิบัติตาม......
วันมาฆบูชา ปีนี้
เป็นชาวพุทธที่ดี ด้วยการเข้าวัด ฟังธรรมกันนะครับ

วันวาเรนไทน์/14 กุมภาพันธ์

วันที่ 14 กุมภาพันธ์
วันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์

สัญลักษณ์
วันแห่งความรัก

เหตุผลของการเกิดวันวาเรนไทน์
วาเรนไทน์ คือชื่อ นักบุญศาสนาคริสต์ท่านหนึ่ง ชื่อว่า เซนต์วาเรนไทน์
ท่านเปี่ยมไปด้วยความรัก ความปราถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์
ท่านได้ระเมิดกฎของกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 แห่งราชอาณาจักรโรมัน.....
พระองค์ทรงตั้งกฎไม่ให้ชายหนุ่มแต่งงาน เนื่องจากพระองค์ต้องการทำสงคราม
เพื่อให้ชายหนุ่่มมีความตั้งใจในการทำสงคราม จึงไม่ต้องการให้ชายหนุ่มทั้งหลายมีความรักระหว่างหนุ่มสาว
ซึ่งอาจส่งผลต่อความไม่พร้อมทั้งกายและใจในการร่วมทำสงคราม
แต่นักบุญเซนต์วาเรนไทน์ ท่านได้ระเมิดกฎที่กษัตริย์ทรงห้ามไว้
โดยท่านได้ลักลอบแต่งงานให้หนุ่มสาว ข่าวถึงหูกษัตริย์คลอดิอุส พระองค์ทรงไม่พอพระทัย
นักบุญเซนต์วาเรนไทน์ จึงถูกจับกุม และถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
ด้วยความรัก ความเสียสละ และความปราถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์
นับแต่นั้นเป็นต้นมา วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นวันสัญลักษณ์แห่งความรัก

ประเพณีในวันวาเรนไทน์
ในวันวาเรนไทน์ นิยมให้ดอกไม้ และซ็อคโกแลตให้กับคนที่เรารัก แสดงถึงความรักต่อกัน

สรุปท้าย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นอีกวันดีที่ควรค่าแก่การจดจำ และรู้ความหมายของวันอย่างลึกซึ่ง.....
หนุ่มๆ สาวๆ ก็ควรมีความรักที่บริสุทธิ์ต่อกัน เหมือนกับท่านเซนต์วาเรนไทน์ ผู้อุทิศตนเพื่อแสดงความรัก ความปราถนาดี และความเสียสละต่อเพื่อนมนุษย์นะจ๊ะ

ระบบวันสำคัญ

ทุกๆ วันเืดือนปี จะมีวันสำคัญต่างๆ ซึ่งบ่งบอกความหมายและความมีนัยต่างๆ ให้ผู้คนได้ระลึกหรือนึกถึง เรื่องของวันเดือนปี หากมองเพียงแค่ผิวเผินอาจไม่มีความหมาย แต่การใส่ใจสักเล็กน้อยในเรื่องของวันสำคัญแล้ว เราจะรู้อะไรอีกเยอะและมากขึ้นเป็นเท่าตัว อย่างเช่น วันสำคัญของปีใหม่ ความเป็นมาของวันนั้นๆ การรู้เรื่องพื้นฐานจึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะการมีความรู้รอบตัว ช่วยทำให้เราเข้าใจกับทุกสิ่งได้ดี รู้อย่างงี้ก็เชิญหาความรู้เรื่องวันไปกับเราเข้าใจกับทุกสิ่งได้ดี รู้อย่างงี้ก็เชิญหาความรู้เรื่องวันกับเรานะครับ........